วิธีปลูกผักกูด ผักสวนครัวปลอดสารเคมีแต่งสวนก็ได้เก็บกินก็ดี
ผักพื้นบ้าน เปี่ยมด้วยประโยชน์อย่าง ผักกูด สามารถนำมาปลูกเป็นผักสวนครัวและด้วยรูปร่างของกิ่ง ก้าน ใบก็สวยงามสามารถปลูกเพื่อการประดับตกแต่งบ้านได้เช่นกัน ก่อนจะเข้าเรื่อง วิธีปลูกผักกูด เราต้องเข้าใจธรรมชาติของต้นผักกูดกันเสียก่อน ผักกูดจะเติบโตได้ดี ก็ด้วยดินในพื้นที่แปลงปลูกจะต้องไม่มีสารเคมีใดๆ ตกค้าง เพราะจะมีผลทำให้ต้นผักกูดแคระแกร็นไม่แตกยอด หรือไม่ก็ตายไปเลย โดยมากผักกูดจะเติบโตขึ้นเองตามธรรมชาติ พบได้ตามตามริมน้ำหรือลำธารที่เป็นแหล่งธรรมชาติบริสุทธิ์ เพราะเป็นผักต้องการความชื้นสูง สภาพดินจะต้องอุ้มน้ำชื้นแฉะ แต่ไม่ท่วมขัง แสงแดดส่องรำไร ผักกูดถึงจะแตกยอด อ่อนได้ดี
วิธีปลูกผักกูด
สำหรับ วิธีปลูกผักกูด ในรั้วบ้าน สามารถนำมาปลูกใส่กระถางหรือลงดินโดยตรงก็ได้ ถ้าเป็นผักกูดต้นเล็กที่ได้มาจากการเจริญเติบโตจากซอไร หรือสปอร์ ควรปลูกไว้ในกระถางดีกว่าเพราะสามารถดูแลเอาใจใส่ได้ง่ายเนื่องจากเจริญเติบโตค่อนข้างช้ากว่าการนำเอาผักกูดต้นใหญ่มาแยกกอ ส่วนผักกูดต้นใหญ่การปลูกควรนำมาแยกให้เป็นกอเล็กๆแล้วค่อยนำไปปลูกในดินโดยตรงหรือปลูกไว้ในกระถางผักกูดต้นใหญ่มีการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างเร็วให้ฟรอนด์ สำหรับนำไปปรุงอาหารได้ไวกว่าผักกูดที่เจริญมาจากซอไร
หลังจากเก็บผักกูดมาจากธรรมชาติแล้ว ให้คัดแยกต้นใหญ่และต้นเล็กโดยผักกูดต้นใหญ่หรือกอใหญ่ให้แยกกอ เป็นกอละหนึ่งฟรอนด์ก็พอ แล้วค่อยนำไปปลูกในสถานที่ปลูกที่มีความชุ่มชื้น มีแดดร่มรำไร เนื่องจากผักกูดชอบน้ำและที่อากาศเย็น อาจปลูกใกล้ต้นไม้ใหญ่หรือมีการพรางแสงให้อากาศเย็นทำให้ผักกูดสามารถเจริญเติบโตได้ดี
1.การปลูกในกระถาง ให้ใช้กระถางซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 7 นิ้วขึ้นไปเพราะถ้าผักกูดโตเต็มที่จะมีใบมีขนาดใหญ่และยาว แล้วใส่ดินปลูกลงไปประมาณสามส่วนของกระถาง ใส่ปุ๋ยชีวภาพ (หรือปุ๋ยคอก) ลงไปเล็กน้อย (ประมาณ 1 กำมือ) แล้วนำผักกูดลงปลูกและกลบดินในกระถาง รดน้ำให้ชุ่มและคอยรดน้ำใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ(ปุ๋ยชีวภาพหรือปุ๋ยคอกใส่ทีละน้อยและใส่ได้บ่อย)
2.การปลูกลงดิน ให้เตรียมหลุมปลูกตามขนาดของต้น รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยชีวภาพหรือปุ๋ยคอกเล็กน้อย (ประมาณ 1 กำมือ) นำผักกูดลงปลูก กลบดินแล้วรดน้ำให้ชุ่ม จากนั้นคอยดูแลเรื่องน้ำอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ เนื่องจากต้นผักกูดจะเจริญเติบโตได้ดีในสภาวะชุ่มชื้น มีแดดร่มรำไร ดังนั้นเพื่อเป็นการเบาแดดและเก็บความชุ่มชื้นให้ต้นผักกูดจึงมี 2 วิธีการปลูกลงดินมาแนะนำเพิ่มเติมดังนี้
2.1 ปลูกร่วมกับพืชชนิดอื่น โดยพืชที่เข้ากันได้ดีคือต้นกล้วย เนื่องจากรากกล้วยกักเก็บความชุ่มชื้นในดินได้ดี และใบกล้วยยังช่วยพรางแสงให้กับผักกูด แต่ควรเสริมระบบให้น้ำด้วยสปริงเกอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
2.2 ปลูกใต้สแลน กรองแสง 60–80% ควบคู่กับการตั้งสปริงเกอร์ให้น้ำเพิ่มความชุ่มชื้น โดยทำหลังคาสแลนสูง 1.5-2 เมตร หลังจากยกร่องแปลงปลูกให้มีพื้นที่ว่างระหว่างร่อง 1.5 เมตรเสร็จแล้ว ให้หว่านมูลสัตว์ปรับหน้าดิน ลงต้นพันธุ์ (แขนง) ความห่างระหว่างกอ 50×50 ซม. ช่วง 1 เดือนแรกให้น้ำทุก 3-4 ชม. พร้อมคอยสำรวจเก็บวัชพืชที่อาจติดมากับมูลสัตว์ออกไปให้หมดเพื่อจะได้ไม่ไปแย่งอาหาร และเพราะผักกูดเป็นพืชมีเมือก ทำให้ไม่มีแมลงมากัดกินดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีปราบแมลงศัตรูพืช และทุกๆ 3 เดือน ให้เติมปุ๋ยระหว่างกอต้นผักกูด จุดละครึ่งกิโลกรัม และปล่อยน้ำให้ชุ่มชื้น ใช้เวลาปลูกเพียงแค่ 6 เดือน จะเริ่มเก็บยอดได้ ขณะตัดยอดให้ตัดแต่งใบแก่ออกไปด้วย เพราะถ้าไม่ตัดออกจะทำให้ยอดใหม่แตกช้าและมีขนาดเล็ก
รู้วิธีปลูกผักกูดกันไปเรียบร้อย ใครนำไปปลูกแล้วได้ผลงอกงาม หรือมีเคล็ดลับการปลูกพืชผักสวนครัวเด็ดๆ ก็สามารถแบ่งปันกันมาได้ที่กล่องคอมเม้นต์ด้านล่างเป็นการแชร์ความรู้กันนะคะ
No comments:
Post a Comment