หมอไพศาล กับคำถาม“ดูหมอ อีก 10 ปีก็ไม่กระดิก”
หมอไพศาลกับคำถาม“ดูหมออีก 10 ปีก็ไม่กระดิก”
ผมจะเรียนหมอดูได้มั้ย
ผมเรียนเพาะช่าง และในระหว่างที่เรียนก็สนใจในการที่วาดรูปตามวัด มีพระที่เรานับถืออยู่รูปหนึ่งอยู่ที่วัดโพธิ์ท่านเป็นพระดูหมอ ผมไปหาท่านเสมอจนกระทั่งท่านผูกดวงให้ และผมก็ไปบอกท่านว่าผมอยากจะเรียนดูหมอ ขอซื้อตำราได้มั้ย ตอนนั้นท่านเอาดวงเหวี่ยงมาเลย และบอกว่า
น้ำหน้าอย่างเอ็ง 10 ปีก็ไม่กระดิกหรอก ทางโหราศาสตร์เนี่ย ด้วย
ผมก็เสียใจว่าทำไมเราถึงจะอ่านไม่จบ เพราะผมเป็นนักอ่านหนังสือตั้งแต่เด็กๆ อ่านเร็วด้วย ก็เลยเริ่มคิดที่จะเรียนโหราศาสตร์ตั้งแต่ช่วงนั้นเป็นต้นมา จากนั้นก็ไปถามผู้ใหญ่ท่านนึงว่าตอนนี้มีหมอดูไหนที่ดังที่สุดมั้ย? อยากจะไปเรียน ท่านก็บอกว่ามีอยู่คนนึงท่านเคยลี้ภัยมาจากสิงคโปร์ มาเลเซีย หนีจากเกาะตะลุเตาได้ ผมก็ไปหา ท่านอยู่บางรักนอนสูบฝิ่นอยู่ ท่านก็งงว่าเป็นเด็กเป็นเล็กมาอยู่แถวโรงฝิ่นทำไม
ผมบอก…ผมขอถามท่าน 3 ข้อแล้วผมจะกลับเลย ผมถามว่า
1. ผมจะเรียนหมอดูได้มั้ย?
2. ผมจะเรียนโดยวิธีใด?
3. เรียนแล้วผมจะได้ใช้มั้ย?
ท่านก็แปลกใจว่าทำไมผมถามอย่างนี้ ท่านจึงผูกดวงให้และทำนายว่าต่อไปเอ็งจะพิการนะ และเอ็งจะเรียนโหราศาสตร์ได้เอ็งต้องเรียนเอง เพราะเอ็งเรียนกับอาจารย์คนไหนเอ็งจะล้างครู และเอ็งจะรู้แล้วว่าอาจารย์คนนั้นไม่เก่ง เอ็งต้องไปค้นคว้าเองที่หอสมุด แล้วเอ็งจะรู้ว่าอันไหนดี อันไหนไม่ดี และเอ็งจะไม่ผิดครู ถ้าเรียนจบแล้วให้กลับมาหา แล้วจะบอกว่าต้องทำยังไงต่อ และเป็นเรื่องจริงเพราะผมจะเป็นคนต่อสู้ ผมใช้เวลา 6 ปี ในการที่ใช้เวลาว่างไปซื้อหนังสือบ้าง ไปยืมเค้ามาบ้าง เอานั่นไปท่อง เอานี่มาจด มีหนังสือเล่มนึงก็เอามาย่อมาคัด พอผมเรียนจบผมก็กลับไปหาท่าน ท่านให้หนังสือมาฉบับนึง และบอกว่า วิชาโหราศาสตร์เอ็งต้องไปขโมยเค้า วิธีขโมยก็คือแต่ละอาจารย์เค้าก็จะไม่บอกเคล็ดวิชา เอ็งต้องไปดูว่าเค้าทายยังไง วิชาโหราศาสตร์เป็นวิชาสถิติ ต้องค้นคว้า ต้องติดตาม ผมรู้สึกตัวเองว่าผมเป็นคนสมัยใหม่ ผมก็เอามาทำเป็น Record เป็นเรื่องราวแล้วก็ศึกษาในแต่ละเรื่องว่าทำไมคนๆ นี้ถึงเป็นแบบนี้ๆ
เมืองไทยเราขาดเรื่องที่ว่าไม่มีการจดสถิติ เพื่อให้เป็นข้อมูลทางโหราศาสตร์ พอมาทายคนก็คิดว่าโมเมหรือเปล่า แต่ของฝรั่งเค้ามีข้อมูลเยอะ เพราะฉะนั้นตำราโหราศาสตร์ที่เขียนออกมาทั้งหมด Copy ออกมาจากต้นฉบับทั้งสิ้น อ่านไปก็เข้าป่าเพราะมันเป็นข้อมูลดิบๆ และทุกคนใจแคบไม่ยอมเขียนประสบการณ์โหราศาสตร์ให้คนรุ่นหลังอ่าน ซึ่งอาจจะเกิดจากเค้าได้วิชามาบังเอิญแล้วก็ไม่รู้จะเขียนออกมายังไงก็เป็นได้ ผมเคยคิดว่าจะเขียนตำราตอนแก่ แต่ตอนนี้แก่แล้วก็ยังไม่ได้เขียนเลย (หัวเราะ) จะเขียนให้คนเราดูตัวเองได้ นักโหราศาสตร์ทั้งหลาย หรือคนที่เป็นหมอดูทั้งหลาย มักจะเป็นคนที่อาภัพ ไม่ค่อยเจริญ เพราะเค้าไม่รู้จักครูบาอาจารย์ เค้าไปไหว้ครูอาจารย์ที่ต้องมีเครื่องเซ่นไหว้ แต่เค้าไม่เคารพคนที่มาดูเพราะคนที่มาดูถือว่าเป็นครู เหมือนหมอที่ต้องผ่าศพ ซึ่งถือว่าศพนั้นคือครู ถ้าผมไม่มีคนอื่นมาดูผมไม่มีวันแตกฉาน ตำราเป็นเพียงอาจารย์ระดับต้นเท่านั้น
ความแม่นยำในการผูกดวงแต่ละครั้ง คือ คนที่มาดูต้องรู้ วัน เดือน ปี และเวลาเกิดของตัวเองอย่างแน่นอน ถึงจะทายได้ แต่ทางโหราศาสตร์เค้าจะให้บวกลบเวลาเกิดได้สองชั่วโมงจากที่ผมได้เคยทำนายมา เคยมีเหตุการณ์อยู่ครั้งหนึ่งที่ผมจำได้แม่นเลย คือ
มีพนักงานบริษัทน้ำมันรายหนึ่ง มากับเพื่อนตอนแรกเค้าไม่เชื่อเรื่องนี้ ผมก็ทายเค้าไปว่าคุณน่ะบ้ารถใหม่ เค้าก็ตกใจ ก็ทายเค้าไปว่าให้ระวังรถที่คุณขับมันจะมีอุบัติเหตุ จนต้องเอาไปคืน เค้าก็หัวเราะเลยบอกว่ารถยี่ห้อนี้ไม่สามารถเป็นอะไรได้ ผมก็บอกว่าไม่รู้สิ และทายต่อไปว่าคุณทำงานเกี่ยวกับแก๊ซ หรือน้ำมันนี่ดีแล้วนะ จะเจริญก้าวหน้าแต่ในดวงคุณมันมีเคราะห์อันนึงแต่ผมยังบอกคุณไม่ได้ เอาเป็นว่าถ้ารถคุณเสียเมื่อไหร่ คุณกลับมาก็แล้วกัน เค้าก็หายไปไม่ถึงเดือน แล้วเค้ากลับมาใหม่พร้อมกับลูกน้องที่มานั่งฟังกันเต็มไปหมดมาเล่าให้ฟังว่าวิ่งรถไปต่างจังหวัด เครื่องรถทั้งเครื่องหลุดลงมา! และตอนนั้นบริษัทรถยนต์ยี่ห้อนั้นก็วุ่นวายกันใหญ่ จนเปลี่ยนรถใหม่ให้
ตอนนั้นผมก็บอกเค้าว่าผมไม่อยากทายต่อ เค้าถามว่าทำไม ผมเลยถามเค้าไปว่าตอนนี้คุณอยู่กรุงเทพฯใช่มั้ย ถ้าที่บริษัทขอให้คุณไปอยู่ต่างจังหวัด คุณไม่ไปได้มั้ยไม่ว่าจะระยะเวลานานหรือชั่วคราว เค้าก็บอกผมว่าผมไม่ไปอยู่แล้ว ตอนนี้ผมคลุมสำนักงานใหญ่ ผมจะไปทำไม เค้าก็ถามผมต่อว่าทำไม ผมเลยบอกว่ามันจะมีอุบัติเหตุน่ะสิ แต่มีทางแก้ได้คือถ้าคุณไปคุณต้องเอาภรรยาคุณไปด้วย แล้วคุณจะแคล้วคลาด จากนั้นไม่นานเค้าก็โทรกลับมาหาผมอีกและบอกว่าหัวหน้าคนที่เป็นคนญี่ปุ่นเค้าจะกลับประเทศเค้า 7 วัน ทางโคราชก็เลยเรียกให้ผมไปคุมแทน นายสั่งไม่ไปไม่ได้ด้วย เค้าเลยขอร้องให้ภรรยาเค้าไปด้วย แต่ภรรยาเค้าบอกว่าไม่ไป ทำยังไงก็ไม่ไป เค้าก็เลยไปคนเดียว ผ่านไป 4 – 5 วันจนถึงวันจะกลับแล้ว ด้วยความใจร้อนเค้าเลยรีบออกแต่เช้า ขับรถออกมาจนถึงเนินใหญ่ๆ มีรถบรรทุกที่เป็นรถพ่วงวิ่งมาแล้วเดือยที่เชื่อมต่อข้างหน้ากับข้างหลังมันหลุด รถเค้าก็วิ่งเข้ามาก็ชนเข้าตัวทำให้เสียชีวิตตรงนั้นเลย ตอนผมได้ฟังผมก็เสียใจกับภรรยาของเค้าด้วย
นักโหราศาสตร์ที่ดี เราต้องเก็บความลับของคนที่มาดูอย่างดีเลย ไม่ว่าเป็นใครที่มาดูเราก็ต้องเก็บความลับของเค้าเอาไว้ นอกจากเค้าตายไปแล้ว หรือเค้าอนุญาต คนที่เค้าเข้ามาคือคนที่มีความทุกข์อยู่แล้ว ดังนั้นเราต้องใช้ความรู้ที่เรามีทั้งหมดช่วยเค้าแก้ปัญหา ชี้ทางให้เค้าไปให้ถูกต้องที่สุด และต้องศึกษาหาความรู้ตลอด
บทสัมภาษณ์จาก นิตยสาร Mono
No comments:
Post a Comment